วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

โปรแกรม adobe bridge cs6


โปรแกรมที่ใช้สำหรับดูภาพ และยังสามารถกำหนดสิ่งต่างๆ ให้กับภาพ เพื่อความสะดวกในการค้นหา แถมยังเป็นโปรแกรมที่ทำงานร่วมกับ Photoshop ได้เป็นอย่างดี

การเปิดโปรแกรม Bridge เปิดได้จากโปรแกรมโดยตรง หรือเปิดจากโปรแกรม Photoshop ก็ได้ โดยที่โปรแกรมเมนู เลือก File เลือก Browse in Bridge

การปรับพื้นที่ทำงาน Workspace ของโปรแกรม ทำได้โดยการเลือกที่แถบด้านบนขวามือของโปรแกรม ซึ่งมีทั้งหมด 8 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ Essential, Filmstrip, Metadata, Output, Keywords, Preview, Light Table, Folder แต่ละแบบก็เหมาะกับความสะดวกที่แตกต่างกันไป รวมทั้งยังสามารถกำหนด Workspace ขึ้นตามความต้องการของเราได้ด้วย โดยการจัดเรียงรูปแบบที่ต้องการ จากนั้นเลือก New Workspace ที่แถบด้านบนขวามือของโปรแกรมเช่นกัน เท่านี้ก็จะได้รูปแบบของเราเองไว้ใช้งาน







  • ไอคอนลูกศรชี้ทางซ้าย = คำสั่งให้กลับไปยังขั้นก่อนหน้า
  • ไอคอนลูกศรชี้ทางขวา = คำสั่งให้ไปยังขั้นหลังสุด
  • ไอคอนลูกศรชี้ลง = คำสั่ง Go To เมื่อคลิกไอคอนนี้ จะสามารถเลือกคลิกในส่วนที่ต้องการให้แสดงในส่วนของ Content
  • ไอคอนลูกศรชี้ลงและรูปนาฬิกา = คำสั่ง Recent Folder เพื่อไปยังส่วนที่ถูกเลือกก่อนหน้า
  • ไอคอนบูมเมอแรง = การสั่งให้กลับไปสู่โปรแกรม Photoshop
  • ไอคอนลูกศรชี้ลงและกล้องถ่ายรูป = ใช้สำหรับโหลดภาพจากกล้องถ่ายรูป
  • ไอคอน Refine = สำหรับเลือก Review Mode, Batch Rename, และ File Info
  • ไอคอน Camera Raw = สำหรับเปิดโปรแกรม Camera Raw
  • ไอคอน Output = สำหรับการสร้างภาพเป็น PDF หรือ Web Gallery
  • ไอคอน Rotate = สำหรับการ Rotate ภาพ
  • ไอคอนรูปดาว = สำหรับการเลือกให้แสดงตามเงื่อนไข เช่น จำนวนดาว หรือป้ายกำกับต่างๆ ที่ใส่ให้กับภาพ
  • Sort by File name = สำหรับการเลือกให้แสดงตามรูปแบบการจัดเรียงต่างๆ 
  • ไอคอน Open Recent File = สำหรับเลือกไฟล์ที่เปิดก่อนหน้า
  • ไอคอน Create a New Folder = สำหรับการสร้างโฟลเดอร์
  • ไอคอน Delete Item = สำหรับการลบ ภาพ ไฟล์ หรือ โฟลเดอร์





วิธีพิจารณา และปรับแต่งภาพถ่าย
ทำได้โดยการคลิกที่ภาพซึ่งจะแสดงอยู่ในส่วนของ Content ซึ่งเป็นพื้นที่ตรงกลางของโปรแกรม เมื่อคลิกที่ภาพแล้ว ภาพจะแสดงที่ช่อง Preview ซึ่งอยู่ด้านขวามือของโปรแกรม ส่วนรายละเอียดต่างๆ ของภาพ จะแสดงอยู่ในส่วนของ Metadata .. สามารถปรับขนาดของช่อง Preview ให้ใหญ่ขึ้น หรือเล็กลงโดยการเลื่อนที่แถบด้านซ้าย และแถบด้านล่างของกรอบ Preview




การปรับขยายภาพ และรูปแบบการแสดง 
ภาพที่แสดงอยู่ในส่วนของ Content สามารถปรับขนาดได้ โดยการปรับเลื่อนที่แถบด้านล่างขวามือของโปรแกรม พร้อมทั้งยังสามารถที่จะเลือกรูปแบบการแสดงได้จากการคลิกเลือกไอคอนถัดจากแถบปรับขนาด เพื่อเลือกรูปแบบการแสดงภาพได้อีกด้วย ขณะที่คลิกอยู่ที่ภาพใดภาพหนึ่งถ้าต้องการเลื่อนไปยังภาพอื่น ทำได้โดยการใช้ปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ด

การซูมภาพ
ถ้าต้องการขยายบางจุดของภาพเพื่อดูรายละเอียด สามารถทำได้ด้วยการซูมภาพจากช่อง Preview เมื่อนำเม้าส์เข้าไปในส่วนของ Preview เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นรูปแว่นขยาย ให้ทำการคลิกลงตรงส่วนที่ต้องการขยาย จะได้กรอบของแว่นขยายขึ้นมา กรอบแว่นขยายนี้สามารถเคลื่อนย้ายได้ โดยให้คลิกที่กรอบนี้แล้วลากเพื่อเปลี่ยนไปยังจุดอื่นที่ต้องการขยาย และเมื่อต้องการปิดแว่นขยายก็เพียงคลิกที่กรอบนั้นอีกครั้ง




การดูภาพแบบ Full Screen
เมื่อคลิกเลือกภาพที่ต้องการจากส่วนของ Content แล้ว โดยจะเลือกเพียงหนึ่ง หรือหลายภาพก็ได้ การเลือกหลายภาพทำได้โดยการกด Ctrl ค้างไว้แล้วคลิกเพิ่มทีละภาพจนครบทั้งหมดที่ต้องการ จากนั้นใช้โปรแกรมเมนู View เลือก Full Screen Preview หรือจะใช้คีย์ลัดโดยการกด Spacebar ก็ได้ ขณะที่อยู่ในโหมด Full Screen Preview ถ้าต้องการเลื่อนภาพให้ใช้ปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ด และถ้าต้องการออกจาก Full Screen Preview ให้กดปุ่ม Esc

การดูภาพแบบ Review Mode
ขั้นแรกเลือกภาพที่ต้องการ จากนั้นใช้โปรแกรมเมนู View เลือก Review Mode หรือใช้คีย์ลัด Ctrl + B การดูภาพใน Mode นี้เป็นการดูภาพแบบหมุนเวียน ถ้าต้องการเลื่อนภาพให้ใช้ปุ่มลูกศร ซ้าย หรือ ขวา เพื่อเลื่อนการหมุนภาพทางซ้าย หรือ ขวา พร้อมกันนี้ยังสามารถเลือกได้ว่าภาพใดที่ไม่ต้องการ หรือไม่อยากให้อยู่ในกลุ่มภาพนี้ ให้คลิกที่ภาพแล้วใช้ปุ่มลูกศรชี้ลงเพื่อนำภาพออกไปจากชุดภาพทั้งหมดที่เลือก

ขณะที่ดูภาพสามารถใช้เครืองมือซูม โดยการคลิกที่ไอคอนแว่นขยายซึ่งอยู่ด้านล่าวขวา และเมื่อดูจนพอใจ และเลือกภาพได้เป็นที่ต้องการแล้ว อยากที่จะเก็บไว้เป็น Collection ให้คลิกที่ไอคอนรูปกระเป๋าซึ่งอยู่ถ้ดจากไอคอนแว่นขยาย ภาพชุดนี้ก็จะถูกส่งมาเก็บไว้ที่แถบ Collection สามารถทำการตั้งชื่อใหม่ให้กับ Collection ได้โดยการดับเบิ้ลคลิกที่แถบชื่อที่โปรแกรมตั้งให้ แล้วพิพม์ลงไปใหม่ตามต้องการ ถ้ายังไม่ต้องการสร้าง Collection แล้วต้องการออกจาก Review Mode ให้คลิกที่ไอคอนรูปกากบาท หรือกดปุ่ม Esc





การดูภาพแบบ Slide Show
โปรแกรมเมนู View เลือก Slideshow หรือใช้คีย์ลัด Ctrl + L ถ้าต้องการหยุดภาพ (pause) ขณะที่อยุ่ในโหมด Slideshow ให้กด Spacebar ถ้ากดอีกครั้งก็เป็นการปลด pause ถ้าต้องการออกจาก Slideshow ให้กดปุ่ม Esc

  • การตั้งค่าการดูภาพแบบ Slideshow ทำได้ 2 แบบ
    • ขณะที่ชมภาพให้กด L หน้าต่าง Slide Options ก็จะแสดงขึ้นมาเพื่อให้ทำการตั้งค่า
    • ขณะอยู่ที่โปรแกรม Bridge เลือกโปรแกรมเมนู View เลือก Slide Show Option หรือคีย์ลัด Ctrl + Shift + L

การ จัดเรียง จัดลำดับ ให้กับภาพ
ภาพที่ได้จากการถ่ายภาพนั้นมีมากมายที่ต้องนำมาทำการคัดเลือกเพื่อหาภาพที่ดีที่สุด ดังนั้นจำเป็นต้องมีการจัดลำดับ รวมถึงการใส่สิ่งต่างๆ เช่นการติดดาว การใส่แถบสี การใส่ข้อความ เพื่อกำกับให้กับภาพนั้นๆ การสร้างสิ่งต่างๆ นี้ สามารถทำได้กับทุกโหมดที่ใช้ในการดูภาพขณะนั้น

การติดดาว ทำได้โดยเลือกที่โปรแกรมเมนู Label แล้วทำการเลือกจำนวนดาว หรือจะใช้คีย์ลัดในการใส่ดาวก็ได้ตามรายการ

  • Ctrl + 1 = 1 ดาว
  • Ctrl + 2 = 2 ดาว
  • Ctrl + 3 = 3 ดาว
  • Ctrl + 4 = 4 ดาว
  • Ctrl + 5 = 5 ดาว
ถ้าต้องการนำดาวออกจากภาพ ให้กด Ctrl + 0

การติดป้ายกำกับ ทำได้โดยเลือกที่โปรแกรมเมนู Label เช่นกัน แล้วทำการเลือกชนิดของป้ายกำกับ หรือจะใช้คีย์ลัดได้ตามรายการด้านล่าง แต่ถ้าต้องการนำป้ายกำกับออกจากภาพ ให้เลือก No Label

  • Ctrl + 6 = Select แถบสีแดง
  • Ctrl + 7 = Second แถบสีเหลือง
  • Ctrl + 8 = Approved แถบสีเขียว
  • Ctrl + 9 = Review แถบสีฟ้า

ถ้าต้องการเปลี่ยนจำนวนดาว หรือป้ายกำกับให้กับภาพ ทำโดยคลิกที่ภาพนั้น แล้วกด Ctrl แต่ละตัวที่ต้องการเปลี่ยนได้เลย โปรแกรมจะอัพเดทให้โดยอัตโนมัติ


การ คัดกรอง คัดเลือก ภาพ

ภาพที่ทำการติดดาว หรือใส่ป้ายกำกับแล้ว สามารถทำการคัดกรองภาพได้โดยคลิกเลือกแถบ Filter ในส่วนนี้จะเก็บข้อมูลของภาพทั้งหมด จากนั้นเลือกว่าต้องการคัดกรองภาพแบบใหน ก็ให้คลิกที่ส่วนนั้น จะปรากฏภาพตามการคัดกรองขึ้นที่ส่วนของ Content

ถ้าต้องการเลือกการคัดกรองที่มีการกำหนดมากกว่าหนึ่งรายการในครั้งเดียว เช่นถ้าต้องการภาพที่ติดดาว 1 ดาว และติดป้ายกำกับด้วยแบบ Select ด้วย ก็ให้คลิกที่จำนวนดาวของภาพ จากนั้นคลิกเลือกประเภทของป้ายกำกับที่ป็น Select ร่วมด้วย





การรวมกลุ่มให้กับภาพ (Stack)

ทำโดยให้เลือกภาพที่้ต้องการให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน จากนั้นเลือกโปรแกรมเมนู Stack เลือก Group as Stack หรือคีย์ลัด Ctrl + G ภาพที่ถูกเลือกก็จะรวมกันอยู่ใน Stack

ถ้าต้องการดูว่าใน Stack มีภาพอะไรบ้าง ทำได้ด้วยการคลิกที่ปุ่ม Play หรือคลิกที่แถบเพื่อเลื่อนชมภาพ จำนวนภาพที่อยู่ใน Stack จะแสดงเป็นตัวเลขอยู่ที่มุมบนซ้ายของ Stack




การขยายภาพออกจาก Stack ทำได้โดยการคลิกที่ตัวเลขบอกจำนวนภาพ ทุกภาพก็จะขยายออกมา ถ้าต้องการเก็บเข้า Stack เหมือนเดิม ก็คลิกที่ตัวเลขนั้นอีกครั้ง แต่ถ้ามีการสร้าง Stack มากกว่าหนึ่ง Stack แล้วต้องการขยายภาพออกจากทุก Stack ให้ทำโดยโปรแกรมเมนู Stack เลือก Expand All Stacks หรือคีย์ลัด Ctrl + Alt + Right Arrow ...ถ้าต้องการให้รวมกลับเข้าทุก Stacks เช่นเดิม ก็เลือกโปรแกรมเมนู Stack เลือก Collapse All Stacks หรือ Ctrl + Alt + Left Arrow

การยกเลิก Stack ให้คลิกที่ Stack เพื่อขยายภาพออกมาก่อน แล้วไปที่โปรแกรมเมนู Stack เลือก Ungroup from Stack หรือคีย์ลัด Ctrl + Shift + G


การสร้าง Collection 

การนำภาพต่างๆ มาเก็บเพื่อเป็น Collection ทำได้โดยให้คลิกแถบของ Collection และคลิกเลือกวิธีการสร้างที่ไอคอนด้านล่าง ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ




  1. New Collection คลิกไอคอนรูปกระเป๋าใบแรก ทำการตั้งชื่อ จากนั้นคลิกเลือกภาพที่ต้องการ แล้วลากเข้าไปใน ไอคอน 
  2. New Smart Collection คลิกไอคอนรูปกระเป๋าใบที่สอง การทำ Collection ด้วยวิธีนี้ คือ การกำหนดเงื่อนไขให้โปรแกรมทำการเลือกภาพตามเงื่อนที่เรากำหนดให้ แล้วนำภาพมาเก็บให้เราโดยอัตโนมัติ



การนำภาพออกจาก Collection ให้คลิกที่ไอคอน Collection ที่ได้สร้างไว้ จะมีภาพที่เก็บไว้แสดงขึ้นมาที่ส่วนของ Content ให้ทำการคลิกเลือกภาพที่ต้องการลบออก แล้วกดปุ่ม Remove From Collection ที่แถบด้านบนของ Content การทำแบบนี้เป็นเพียงการนำออกจาก Collection ไม่ได้ลบภาพจริง ภาพต้นฉบับของเรายังคงอยู่เหมือนเดิม


Metadata และ Keyword คือ ข้อมูลของภาพนั้นๆ ซึ่งได้จากตัวภาพเอง และจากการเพิ่มเข้าไป เพื่อให้ผู้ที่ชมภาพได้ทราบข้อมูลต่างๆ ของผู้ถ่ายภาพ และรายละเอียดจากการสร้างภาพนั้นๆ ทั้งสองส่วนนี้จะแสดงอยู่ในแถบของ Metadata และ Keywords ของโปรแกรม


Metadata แบ่งได้ 2 แบบ 

  • การได้มาจากตัวข้อมูลของภาพ เช่น รายละเอียดของ ขนาด ความละเอียด ประเภทของสี และอื่นๆ 
  • การเพิ่มข้อมูลเข้าไปให้กับภาพ ทำได้โดยการคลิกเพื่อเปิดขยายแถบต่างๆ และพิมพ์ใส่เข้าไป เช่น แถบของ IPTC และอื่นๆ ที่ต้องการ
Keywords แบ่งได้ 2 แบบ

  • ใช้ Keywords ที่มีอยู่แล้วในโปรแกรม 
  • สร้าง Keywords ขึ้นมาเอง โดยการคลิกที่ปุ่มมุมบนขวามือของแถบ Keywords เลือก New Keywords หรือจะใช้วิธีคลิกเครื่องหมาย + ที่แถบด้านล่างก็ได้  จากนั้นให้ทำการตั้งชื่อของ Keywords ถ้าต้องการสร้าง Sub Keywords ให้คลิกที่เครื่องหมายก่อนหน้าเครื่องหมาย + (New Sub Keywords) และทำการตั้งชื่อ Sub Keywords
    • เมื่อสร้างทั้งสองส่วนเสร็จแล้ว ให้คลิกที่ภาพเพื่อใส่ Keywords จากนั้นคลิกเลือกช่องของ Keywords ต่างๆ ที่ต้องการใส่ให้กับภาพ
    • สามารถใส่ Keywords เดียวกันให้กับภาพหลายภาพ โดยการคลิกภาพทั้งหมดที่ต้องการ แล้วทำตามขั้นตอนการใส่ Keywords

การเปลี่ยนชื่อให้กับภาพ Renaming images

การใส่ชื่อให้กับแต่ละภาพด้วยวัตถุประสงค์ต่างๆ ของแต่ละคนนั้นทำได้ไม่ยาก และมีหลายวิธีด้วยกัน

  • คลิกเลือกทีละภาพ จากนั้นคลิกที่ชื่อของภาพแล้วทำการพิมพ์ หรือ
  • คลิกเลือกภาพทั้งหมดที่ต้องการ แล้วใช้โปรแกรมเมนู Tool เลือก Batch Rename หรือใช้คีย์ลัด Ctrl + Shift + R หน้าต่าง Batch Rename แสดงขึ้นมา ทำการตั้งค่าต่างๆ เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Rename




การเลือกภาพจาก Bridge เพื่อให้เปิดที่โปรแกรม Photoshop
ทำได้โดยการดับเบิ้ลคลิกที่ภาพ หรือใช้คีย์ลัด Ctrl + O

การสลับ ไป-มา ระหว่างโปรแกรม Bridge กับ โปรแกรม Photoshop
ขณะอยู่ที่โปรแกรม Bridge ใช้โปรแกรเมนู File เลือก Return to Adobe Photoshop หรือกดคีย์ลัด Ctrl + Alt + O หรือจะกดไอคอนบูมเมอแรงซึ่งอยู่ด้านล่างของแถบโปรแกรมเมนูก็ได้

ขณะอยู่ที่โปรแกรม Photoshop ต้องการไปที่โปรแกรม Bridge ให้ใช้โปรแกรมเมนู File เลือก Browse in Bridge แต่ถ้าต้องการกลับ หรือจะกดที่ไอคอน Br ซึ่งอยู่ที่โปรแกรม Mini Bridge ก็ได้

Mini Bridge เป็น Extension ตัวหนึ่งซึ่งรวมอยู่กับ โปรแกรม Photoshop CS6 การทำงานด้วยคำสั่งต่างๆ สามารถใช้คำสั่งเหมือนกับที่ใช้ในโปรแกรม Bridge ทำให้เกิดความสะดวกขึ้นมากในการทำงานร่วมกันระหว่างสองโปรแกรม การเปิด Extension Mini Bridge ทำได้โดยโปรแกรมเมนู File ใน Photoshop เลือก Browse in Mini Bridge หน้าต่างก็จะเปิดขึ้นมาภายในโปรแกรม Photoshop





เชิญชมวีดีโอ 40 เทคนิคน่ารู้ #9 เทคนิคการใช้โปรแกรม Adobe Bridge





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น