Layer Mask การสร้าง Mask เพื่อใช้กับการแต่งภาพ
การทำ Selection ภาพ หรือ วัตถุ เพื่อตัดภาพ แล้วนำไปวางไว้ใน Background ใหม่ จำเป็นต้องใช้ Mask เพื่อการสร้างชิ้นงานเป็นอย่างมาก มืออาชีพในการแต่งภาพจะใช้วิธีนี้กันทั้งนั้น การใช้ Layer Mask ในการปรับแต่งภาพ จะไม่ทำให้ภาพต้นฉบับถูกทำลาย
Layer Mask สามารถใช้ได้กับ Layer หลายประเภท เช่น Layer ภาพ, Layer Adjustment, Vector Layer (Vector Mask)
ส่วนสำคัญของ Mask แบ่งได้ 3 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นสีดำ จะเป็นการปิดบังภาพ (Conceal) ส่วนที่เป็นสีขาว (Reveal) จะเป็นส่วนที่แสดงภาพ ส่วนที่เป็นสีเทา คือปิดบังบางส่วน หรือก็คือเปิดให้เห็นภาพบางส่วน
Layer Mask สามารถใช้ได้กับ Layer หลายประเภท เช่น Layer ภาพ, Layer Adjustment, Vector Layer (Vector Mask)
ส่วนสำคัญของ Mask แบ่งได้ 3 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นสีดำ จะเป็นการปิดบังภาพ (Conceal) ส่วนที่เป็นสีขาว (Reveal) จะเป็นส่วนที่แสดงภาพ ส่วนที่เป็นสีเทา คือปิดบังบางส่วน หรือก็คือเปิดให้เห็นภาพบางส่วน
การสร้าง Layer Mask จะทำหลังจากได้สร้าง Selection แล้ว เมื่อได้เส้น Selection จากเครื่องมือการทำ Selection แบบใดก็ตาม ให้คลิกที่ไอคอน Add Layer Mask ที่อยู่ด้านล่างของ Layer Panel ก็จะได้กรอบของ Mask รวมอยู่บนเลเยอร์เดียวกับภาพ หรือวัตถุ
ตัวอย่าง ภาพแรกเป็นภาพต้นฉบับ / ภาพที่สองได้ทำ Selection เลือกที่ใบไม้ แล้วทำการ Add Layer Mask เข้าไป เพื่อทำการปิด Background ของภาพแรก / ภาพที่สามเป็นภาพของภาพแรกที่เห็นทะลุลงไปถึงเลเยอร์ Background ใหม่สีส้ม นั่นเพราะ Background ของภาพแรกได้ถูก Mask บังไว้จึงเห็นเป็น Background ใหม่ทันที
ภาพก่อนทำ Selection |
ภาพหลังจากทำ Selection แล้วสร้าง Mask ปิด Background |
ภาพรวมระหว่างภาพแรก กับ Background ใหม่ |
การเรียก Layer Mask ขึ้นมาเพื่อปรับแต่ง ทำได้โดยการกดปุ่ม Alt + คลิกที่ Layer Mask เมื่อปรับแต่งเสร็จแล้ว ให้ทำซ้ำขั้นตอนเดิม เพื่อเป็นการปิดหน้าต่าง Mask
การปรับ Density and Feather สามารถปรับแต่งทั้งสองสิ่งนี้โดย ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ Layer Mask หน้าต่าง Properties จะแสดงขึ้นมา ทั้งนี้ยังสามารถเรียกใช้เครื่องมือ Mask Edge, Color Range หรือทำการ Invert Mask ได้ที่นี่เช่นกัน
- Density = การปรับความหนาแน่นของในส่วนที่เป็นสีของ Mask
- Feather = การปรับความเบลอของขอบ Mask
การคัดลอก Copy Layer Mask ทำได้โดยการกดปุ่ม Alt แล้วคลิกที่ Mask ลากไปยัง Layer ที่ต้องการวาง
การย้าย Layer Mask โดยการคลิกที่ Mask ลากไปยัง Layer ที่ต้องการวาง
การปิด Layer Mask ชั่วคราว บางครั้งต้องการดูภาพก่อนที่ไม่มี Mask ให้ทำโดยกดปุ่ม Shift แล้วคลิกที่ Mask เมื่อต้องการเปิดเหมือนเดิม ก็ให้ทำซ้ำแบบเดิมอีกครั้ง
การลบ Layer Mask ถ้าไม่ต้องการใช้ Mask อีกต่อไป สามารถลบ Mask ได้หลายวิธี
- คลิกขวาที่ Mask เลือก Delete Layer Mask
- คลิกที่ Mask แล้วลากลงมาที่ไอคอนรูปถัง ด้านล่าง Layer Panel แล้วยืนยันการลบ
- คลิกที่ Mask จากนั้นกดปุ่ม Delete
การทำ Selection ด้วยเครื่องมือ Color Range
เครื่องมือทำ Selection ที่สุดยอดตัวหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่คล้ายกับเครื่องมือ Selection รุ่นเก่าคือ Magic Wand Tool ประสิทธิภาพของเครื่องมือ Color Range สุดยอดอย่างไร ติดตามบทความได้เลยครับวิธีเปิดเครื่องมือ โดยโปรแกรมเมนู Select เลือก Color Range จะได้หน้าต่างเครื่องมือดังภาพ การทำ Selection โดยนำเม้าส์ไปคลิกส่วนที่ต้องการทำ Selection บนภาพ ถ้าต้องการทำ Selection ในจุดต่อไป ให้กดปุ่ม Shift + คลิกจุดต่อไปเพื่อให้การทำ Selection ได้พื้นที่มากขึ้น เมื่อน้ำเม้าส์เข้าไปที่บริเวณภาพ เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นรูปหลอดดูดสี เมื่อทำการคลิก ส่วนที่ถูกคลิกจะแสดงให้เห็นที่ช่องสี่เหลื่ยมของเครื่องมือ
การกำหนดตำแหน่งโดยเฉพาะเพื่อใช้เครื่องมือ Color Range สามารถทำได้โดยให้ทำ Selection ในส่วนนั้นก่อน แล้วจึงเปิดใช้เครื่องมือ
การยกเลิกการคลิกเพื่อทำ Selection บางครั้งเมื่อคลิกลงบนจุดที่ต้องการทำ Selection แล้วปรากฏว่าเกิดการ Selection มากเกินไป ให้กดปุ่ม Ctrl + Z เพื่อเป็นการยกเลิก หรือ Undo
ส่วนที่ถูก Selection โดยการใช้เครื่องมือนี้ จะแสดงเป็นสีขาว ส่วนสีดำคือส่วนที่ไม่ได้ทำ Selection เมื่อได้ส่วนของ Selection เป็นที่พอใจแล้ว กด OK ก็จะได้เส้น Selection แสดงบนภาพ
ส่วนต่างๆ ของเครื่องมือ
บทความในส่วนของ Advance ก็ได้เขียนมามากพอสมควร แต่คิดว่าจะพยายามหาสิ่งต่างๆ มาอัพเดทให้เป็นระยะ ถ้าคิดว่าบทความมีประโยชน์ ก็เข้ามาติดตามกันได้นะครับ...เพราะยังสามารถหาอ่านบทความต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันได้อีกหลายบทความ
- Select = สำหรับกำหนดการเลือกสีในการทำ Selection
- Detect Faces = เลือกที่ช่องนี้เพื่อการทำ Selection กับผิวหนัง เครื่องมือจะทำการ Selection ให้โดยอัตโนมัติ ส่วนมากจะใช้สำหรับการเลือกพื้นที่บนใบหน้า
- Localized Color Custers = สำหรับกำหนดขอบเขตที่ได้ทำการเลือก เมื่อคลิกเลือกเมนูนี้ จะต้องใช้คู่กับการปรับค่า Range ส่วนมากจะไม่ค่อยมีใครใช้เมนูนี้เพราะไม่มีประโยชน์
- Fuzziness = จะเหมือนกับการตั้งค่า Tolerance ของเครื่องมือ Magic Wand Tool
- Selection = เลือกเพื่อให้เป็นการแสดงส่วนที่ทำ Selection
- Image = เลือกเพื่อให้แสดงภาพ และทำการคลิกเพื่อทำ Selection จากกรอบในเครื่องมือ
- Selection Preview = ใช้สำหรับกำหนดประเภทของภาพที่จะทำ Selection
- Invert = ใช้สำหรับสลับส่วนที่ถูก Selection
การทำ Selection ด้วยเครื่องมือ Pen Tool
เครื่องมือนี้ใช้สำหรับการทำ Selection เช่นเดียวกับ Color Range แต่ลักษณะการทำของเครื่องมือนี้ จะเป็นการสร้างจุดเพื่อเชื่อมโยงให้เกิดเส้น ซึ่งเรียกว่าเส้น Path พร้อมกับเกิดการ Selection ลักษณะของวัตถุที่เหมาะกับการใช้เครื่องมือนี้ ส่วนมากจะมีขอบเรียบ แต่มี Background ที่ค่อนข้างมีรายละเอียดมาก ซึ่งยากกับการใช้เครื่องมืออื่น และเมื่อใช้เครื่องมือนี้แล้ว ภาพที่ได้จะเกิดขอบที่เรียบสวย แถมยังสามารถปรับแต่งเส้น Path ได้อีกหลายแบบ เช่นปรับแต่งรูปร่าง หรือ เติมสี เป็นต้น เครื่องมือนี้อยู่บนแถบเครื่องมือของโปรแกรม Photoshop คีย์ลัด P เส้น Selection ของเครื่องมือนี้แบ่งออกได้เป็น 3 แบบ ด้วยกัน คือ Shape, Path และ Pixels
การสร้างเส้น Path
เมื่อเลือกเครื่องมือ Pen Tool เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นรูปปากกา และจะมีเครื่องหมาย + แสดงข้างรูปปากกาด้วย หมายถึงเป็นการเริ่มการสร้างเส้น Path การสร้างเส้น Path ทำโดยคลิกลงตรงส่วนที่ต้องการทำ Selection เมื่อคลิกที่จุดแรกเครื่องหมาย + จะหายไป ให้ทำการคลิกต่อไปยังจุดอื่นจนครบรอบวัตถุนั้น
เมื่อสร้างจุดมาจนครบรอบกับจุดแรกที่สร้าง เครื่องหมายวงกลมจะแสดงขึ้นมาให้เห็นข้างเม้าส์รูปปากกา ให้คลิกที่จุดแรกอีกครั้ง จะเป็นการสร้างเส้น Path ที่สมบูรณ์
จากนั้นให้ทำการตั้งชื่อเส้น Path เพื่อทำการบันทึกเก็บไว้ โดยทำที่ Path Panel ถ้า Layer Panel ไม่มี Path Panel แสดงอยู่ ให้ไปที่โปรแกรมเมนู Window เลือก Path เพื่อเปิด Path Panel
การปรับแต่งจุดบนเส้น Path
เครื่องมือในการปรับแต่งจุดของเส้น Path มีด้วยกัน 2 แบบ คือ Path Selection หรือ Direct Selection ซึ่งอยู่บนแถบรวมเครื่องมือของโปรแกรม Photoshop คีย์ลัด A
- Path Selection ใช้สำหรับปรับแต่งเส้น Path ทั้งเส้น
- Direct Selection ใช้สำหรับการปรับแต่งเฉพาะแต่ละจุดบนเส้น Path แต่สามารถเลือกได้หลายจุด โดยการกดปุ่ม Shift ค้างไว้ และคลิกให้ครบทุกจุดที่ต้องการปรับแต่ง หรือใช้วิธีลากคลุมกลุ่มของจุดเหล่านั้นก็ได้
- สามารถใช้ปุ่มลูกศรบนแป้นพิมพ์ เพื่อเลื่อนตำแหน่งของเส้น Path ได้หลังจากที่ทำการคลิกเลือกจุดด้วย Path or Direct Selection Tool
- กดปุ่ม Ctrl ค้าง ขณะที่อยู่ในเครื่องมือ Pen Tool จะกลายเป็นเครื่องมือ Direct Selection และกลับกัน
การเพิ่มจุดบนเส้น Path
ก่อนอื่นต้องใช้เครื่องมือ Path Selection หรือ Direct Selection Tool คลิกที่เส้น Path จากนั้นใช้เครื่องมือ Pen Tool คลิกลงบนเส้น Path ตำแหน่งที่ยังไม่มีจุด
ก่อนอื่นต้องใช้เครื่องมือ Path Selection หรือ Direct Selection Tool คลิกที่เส้น Path จากนั้นใช้เครื่องมือ Pen Tool คลิกลงบนเส้น Path ตำแหน่งที่ยังไม่มีจุด
การปรับแต่งเส้น Path เพื่อปรับความโค้ง ทำได้ 2 วิธี
หนึ่ง ปรับแต่งขณะสร้างเส้น Path โดยใช้เครื่องมือ Pen Tool เมื่อคลิกสร้างจุด ให้คลิกค้างไว้แล้วลากออกห่างจากจุด จะเกิดก้านสำหรับใช้ปรับแต่งความโค้งขึ้นมาทั้งสองด้านของจุด ขณะที่เม้าส์ยังคงคลิกค้างไว้ ให้เลื่อนขึ้น ลง หรือ ลากเข้า ออกได้ ขณะลากถ้ากดปุ่ม Shift จะทำให้เส้นที่ลากนั้นเป็นเส้นตรง ถ้าต้องการปรับมุมของก้านโดยไม่กระทบกับแนวของเส้น Path ให้กดปุ่ม Alt เพื่อปรับลากก้านที่ใช้สำหรับปรับเส้น Path
สอง ปรับแต่งหลังจากสร้างเส้น Path แล้ว โดยการใช้เครื่องมือ Direct Selection Tool คลิกบนเส้น Path จะเกิดก้านปรับเส้น Path ที่ตำแหน่งของจุด ซึ่งจะแสดงให้เห็นทั้งสองด้าน นำเม้าส์คลิกที่ปลายของก้านในฝั่งที่ต้องการปรับ ลักษณะการปรับแต่งทำเช่นเดียวกันกับ Pen Tool
การลบจุดบนเส้น Path ทำได้ 2 วิธี
- Direct Selection Tool คลิกที่จุดนั้นแล้วกด Delete (กรณีนี้จะทำให้เส้น Path มีช่องว่าง)
- Pen Tool เมื่อนำเม้าส์เข้าไปใกล้ตำแหน่งที่มีจุดอยู่แล้ว เครื่องมือ Pen Tool จะแสดงเครื่องหมาย - ให้เห็น เมื่อคลิกที่จุดนั้น จะเป็นการลบ (กรณีนี้เส้น Path จะยังเชื่อมต่อกันครบทั้งเส้น)
การสร้าง Mask และ Vector Mask จากเส้น Path
- Mask = คลิก Layer ที่ต้องการสร้าง Mask จากนั้นกดปุ่ม Ctrl แล้วคลิกที่ Path Panel จะได้เส้น Selection แล้วทำการคลิกไอคอน Add Layer Mask ที่อยู่ด้านล่างของ Path Panel
- Vector Mask = คลิก Layer ที่ต้องการสร้าง Vector Mask คลิกที่ Path Panel จากนั้นกดปุ่ม Ctrl แล้วคลิกที่ Add Vector Mask (ใช้ปุ่มเดียวกันกับ Add Layer Mask) หรือจะใช้ปุ่มที่อยู่ด้านล่างของ Layer Panel ก็ได้
สามารถสังเกตุจากสีของ Mask กับ Vector Mask จะต่างกัน แต่หน้าที่ของมันจะเหมือนกัน
การเปลี่ยนเส้น Path เป็น Selection / Shape / Mask
ทำโดยการคลิก ปุ่ม Selection บนแถบควบคุมเครื่องมือ ถ้าต้องการเปลี่ยนเป็น Mask หรือ Shape ก็ให้กดปุ่มทั้งสองซึ่งอยู่ถัดไป
การเบลอ Vector Mask
เครื่องมือที่ใช้ในการเบลอที่นิยม คือ Gaussian Blur แต่ไม่สามารถใช้ Filter Gaussian กับ Vector Mask ถ้าต้องการทำให้ใช้การปรับค่า Feather จาก Mask Properties Panel โดยการคลิกที่ช่อง Mask จะทำให้ขอบของเส้น Path ใน Vector Mask มีความเบลอ
การสร้าง Layer Path
ทำได้โดยการ คลิกทีปุ่ม Create New Path ซึ่งอยู่ที่ด้านล่างของ Layer Path หรือกดปุ่ม Alt แล้วคลิกที่ปุ่มเดิม แต่ครั้งนี้จะมีหน้าต่างขึ้นมาพร้อมให้ทำการตั้งชื่อ
Rubber Band ไอคอนรูปเฟืองบนแถบควบคุมเครื่องมือ Pen Tool ถ้าคลิกเลือกเมนูนี้ จะทำให้เราเห็นแนวของเส้นที่ Pen Tool จะไปยังจุดต่อไป ทำให้สะดวกในการลากเส้น Path
Convert Point Tool คือเครื่องมือสำหรับใช้ในการสร้างก้านสำหรับปรับจุดเพื่อปรับแต่งเส้นโค้ง โดยการคลิกที่จุดแล้วทำการลากก้านแขนออกมา เครื่องมือนี้อยู่รวมกับกลุ่มเครื่องมือ Pen Tool
การปรับแต่งขอบของภาพด้วย Refine Edge หรือ Refine Mask
การทำ Selection ส่วนที่ยากที่สุด คือ ขนของสัตว์ หรือ ผมของคน หรือ อะไรก็ตามที่ค่อนข้างมีลักษณะที่ฟุ้งกระจาย โปรแกรม Photoshop เวอร์ชั่นเก่าๆ รู้สึกว่าถ้าต่ำกว่า CS5 จะไม่มีเครื่องมือตัวนี้ที่พัฒนาแล้ว เช่น CS5 และ CS6 การทำงานกับส่วนเหล่านี้จะค่อนข้างยาก และเสียเวลามาก แต่เดี๋ยวนี้สบายครับ แต่ก็ต้องใช้ฝีมือ และความชำนาญเหมือนกันนะครับ มือใหม่ต้องหัดทำบ่อยๆ ก็จะชำนาญเอง
เครื่องมือนี้เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือคู่กับการทำ Selection เพราะหลังจากการทำ Selection แล้ว จะต้องใช้เครื่องมือนี้ในการปรับแต่งขอบของ Selection ให้ดูสวยงาม การเปิดเครื่องมือโดยโปรแกรมเมนู Select เลือก Refine Edge หรือใช้คีย์ลัด Alt + Ctrl + R ถ้าเรียกใช้เครื่องมือนี้กับ Selection จะเรียก Refine Edge แต่ถ้าเราสร้าง Mask หลังจากทำ Selection และเป็นการปรับแต่งขอบของ Mask โดยใช้เครื่องมือนี้ จะเรียก Refine Mask ซึ่งนิยมใช้กันมาก
ทำความรู้จักส่วนต่างๆ ของเครื่องมือ ซึ่งแบ่ง 4 ส่วน ได้แก่
View Mode ส่วนที่ใช้สำหรับการ Preview หรือ View การตั้งค่า หรือ เพื่อดู Original ของภาพ และ Radius
ทำความรู้จักส่วนต่างๆ ของเครื่องมือ ซึ่งแบ่ง 4 ส่วน ได้แก่
View Mode ส่วนที่ใช้สำหรับการ Preview หรือ View การตั้งค่า หรือ เพื่อดู Original ของภาพ และ Radius
- View = ใช้สำหรับปรับเปลี่ยน Background แต่ละแบบ เพื่อดูขอบของ Selection ว่าสมบูรณ์เพียงใด วิธีเปลี่ยน Background ก็เพียงแต่คลิก Background ที่ต้องการ หรือ กด F Background ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย หรือจะกดคีย์ลัดของแต่ละแบบซึ่งแสดงไว้ก็ได้เช่นกัน
- Show Radius = คลิกเลือกส่วนนี้เพื่อดูส่วนของการทำ Radius คียลัด J
- Show Original = คลิกเพื่อ Preview ภาพก่อนปรับแต่ง หรือจะใช้คียลัด P
Edge Detection ส่วนของการตั้งค่า Radius หรือตัวช่วยพิเศษในการค้นหาขอบของภาพ
- Radius = ใช้สำหรับตั้งค่าการปรับแต่งขอบของภาพ โดยมีหน้าที่ทำให้ขอบของภาพมีรายละเอียดที่ดีขึ้น เหมาะที่จะใช้กับ เส้นขน หรือ เส้นผม
- Smart Radius = เมนูปรับแต่งค่า Radius เมื่อคลิกเลือกจะทำให้การปรับแต่งดีขึ้นโดยอัตโนมัติ
- Refine Radius Tool และ Erase Refinements Tool (ไอคอนรูปแปรง และ ยางลบ)
- Refine Radius Tool ไอคอนแปรง ใช้สำหรับการลบสีของ Background ที่ติดมากับขอบของการทำ Selection (การปรับขนาดแปรงทำได้โดยการกดปุ่ม Bracket [ หรือ ] ถ้ากดแล้วขนาดแปรงไม่เปลี่ยนแปลง ให้คลิกที่ช่อง Show Original และ คลิกยกเลิกอีกครั้ง หรือปรับ Size ที่แถบควบคุมเครื่องมือก็ได้
- Erase Refinements Tool ใช้สำหรับลบ Pixel ที่ติดเข้าไปในภาพตอนที่กำหนดค่า Radius
เทคนิค ขณะที่ใช้ Refine Radius Tool แล้วต้องการใช้ Erase Refinements Tool ทำได้โดยการกดปุ่ม Alt ค้างไว้ หรือกลับกัน
Adjust Edge ส่วนของเมนูการปรับขอบของภาพต่างๆ ประกอบด้วย
- Smooth = ใข้สำหรับปรับความขรุขระของขอบให้เรียบ
- Feather = ค่าความเบลอของขอบ เหมาะที่จะใช้กับขอบของวัตถุที่มีขอบเรียบ หรือเป็นกลุ่มก้อน ไม่เหมาะกับการใช้กับ เส้นขน หรือ เส้นผม
- Contrast = ค่าความคมชัดของขอบ
- Shift Edge = ใช้สำหรับเลื่อนเส้น Selection เข้า หรือ ออก ห่างจากขอบของวัตถุ
เทคนิค ควรตั้งค่าทุกเมนูให้เท่ากับ 0 แล้วค่อยปรับทีละเมนู พร้อมสังเกตุการเปลี่ยนแปลง
Output การกำหนดค่าผลลัพธ์ของภาพ
- Decontaminate Colors = ถ้าคลิกเลือกส่วนนี้ จะทำให้เครื่องมือปรับสีของขอบภาพให้เข้ากับสีของ Background ใหม่ พร้อมทั้งสามารถปรับปริมาณสีได้อีกด้วย
- Output To = ให้เลือกว่าผลลัพธ์ของภาพ หรือภาพที่ปรับค่าแล้วเป็นอะไร หรือเก็บไว้ที่ใหน ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน
ภาพก่อนใช้เครื่องมือ Refine Edge |
บทความในส่วนของ Advance ก็ได้เขียนมามากพอสมควร แต่คิดว่าจะพยายามหาสิ่งต่างๆ มาอัพเดทให้เป็นระยะ ถ้าคิดว่าบทความมีประโยชน์ ก็เข้ามาติดตามกันได้นะครับ...เพราะยังสามารถหาอ่านบทความต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันได้อีกหลายบทความ
ขอบคุณสำหรับวิทยาทาน ดีกว่าหนังสือพิมพ์ขายอีก
ตอบลบขอบคุณครับ ดีมากเลย
ลบขอบคุณครับ ได้ความรู้มากครับ
ตอบลบอยากรบกวนขอคำปรึกษาค่ะ ปัญหาคือใช้ pen tool พอสร้าง selection มันกลับเลือกส่วนตรงข้ามของรูปที่เราต้องการ แก้ไขยังไงคะ
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบ T.GAnG
ตอบลบไม่น่าเป็นไปได้ เพราะการจะทำให้เส้น selection เลือกส่วนอื่นนอกเหนือพื้นที่ของเส้น path ที่สร้างจาก pen tool จะต้องใช้คำสั่ง inverse ยังไงเข้าไปศึกษาจากวีดีโอที่ผมได้สอนไว้ จะเข้าใจได้มากขึ้นครับ https://www.youtube.com/watch?v=7CVpfLWbJDA
ดีมากเลยค่ะ มีประโยชน์สุดๆ ขอบคุณมากนะคะ
ตอบลบตอบ Laliza Blink
ตอบลบสามารถติดตามวีดีโอสอนได้ด้วยนะครับ ถ้าอ่านบทความแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ ครับ